Sunday, February 26, 2012

5. พุทแยกจิตไปนรก


      เมื่อสามารถแยกจิตได้อย่างคล่องตัว พุทก็อยากลองไปเที่ยวนรกเหมือนเพื่อนๆ จึงได้ตั้งจิตขอไปเที่ยวนรกบ้าง และเมื่อรู้ว่า ดาวได้เล่านรกขุมที่ 1 กับ 2 แล้ว พุทก็ขอพาผมไปท่องนรกขุมที่ 3 กับ 4 ต่อ

      “นรกขุมที่3 มีชื่อว่า อสินข นรก สำหรับโทษนรกขุมนี้เป็นโทษอทินนาทาน (ลักทรัพย์) แต่ก่อนที่จะโดนรับโทษในนรกขุมนี้ ก็ต้องไปชดใช้กรรมในนรกขุมใหญ่มาก่อน แล้วค่อยย้อนมารับใช้กรรมในนรกขุมที่ 3

       ในบริเวณขอบเขตโดยรอบนั้น มีนายนิริยบาลคอยควบคุมอยู่ มีสุนัขตัวใหญ่คล้ายๆ ช้างคอยลงโทษสัตว์นรก โดยการไล่กัดกินจนไม่เหลือซาก หากสัตว์นรกพยายามหนีรอด หรือหลบเลี่ยงการลงทัณฑ์ แล้วดันไปเจอนายนิริยบาลเข้า ท่านก็จะเอาหอกมากระหน่ำทิ่มแทง หรือเอาค้อนมาทุบฟาด หมานรกก็รุมกัดกินจนเหลือแต่กระดูก สุดแสนจะทรมานอย่างที่สุด ถึงแม้จะทรมานขนาดไหน แต่ก็จะไม่มีวันตาย คำว่า ตายไม่มีในขุมนรก เนื้อที่ถูกกันกินจนเหลือแต่กระดูก สักพักเนื้อหนังก็จะพูนขึ้นมาดังเดิม แล้วสัตว์ตนนั้น ก็จะพยายามกระเสือกกระสนวิ่งหนีต่อไป วนเวียนอยู่เช่นนี้ จนกว่าจะชดใช้กรรมที่ตนเองก่อจนหมดสิ้น

      สัตว์นรกที่อยู่ในแดนนี้ คือ สัตว์นรกที่เคยก่อกรรม เรื่องขโมยทรัพย์สินของคนอื่น คดโกง จี้ ปล้น เรี่ยไรเงินเพื่อทำบุญ แต่กลับเอาไปใช้เป็นส่วนตัว แต่ถ้าโกงของสงฆ์ก็ต้องลงไปอเวจีมหานรก ทั้งหมดนั่นเป็นนรกขุมที่ 3 ครับ” พุทหยิบน้ำขึ้นมาจิบ

      ผมเสริม “นี่ถ้าทุกคนมีโอกาสได้เห็นความทุกข์ทรมานในนรกอย่างที่เห็น ก็คงไม่มีใครกล้าทำชั่วเลยนะครับ”

      พุทถอนใจ “ไม่แน่หรอกครับพี่ ผมเห็นพระบางองค์ รู้ทุกอย่างว่า ทำชั่วแบบไหน แล้วจะได้ผลกรรมอะไร แต่แล้วก็ยังคงมัวเมาในกิเลส ตัณหา ราคะ ในที่สุดทุกอย่าง ก็ต้องเป็นไปตามกรรมที่ตนเองทำไว้”
      คำพูดของพุทเล่นเอาผมปาดเหงื่อ

      พุทเห็นหน้าผมแล้วอมยิ้ม “อยากเที่ยวขุมอื่นอีกไหมพี่”
      ผมออกอาการอึกอัก

       “ถึงพี่ไม่อยากฟังผมก็จะเล่าให้พี่ฟังอยู่ดีละครับ” พุทยิ้มแฉ่งจนเห็นฟันขาว “ผมจะพาพี่ไปนรกขุมที่ 4 นรกขุมนี้มีชื่อว่า ตามโพทนะนรก”

      นรกขุมนี้มีกะทะหม้อใบใหญ่มหึมาเป็นเหล็กแดง ภายในหม้อจะมีน้ำทองแดง ใส่ไว้จนเต็มเปี่ยม นายนิริยบาลท่านจะคอยเคี่ยวน้ำทองแดงที่ร้อนระอุ สัตว์นรกที่ได้รับโทษทัณฑ์ในนรกขุมนี้ เป็นเพราะตอนที่เป็นมนุษย์ชอบดื่มสุราและสิ่งเสพติดต่างๆ

      นรกขุมนี้จะมีไฟแดงฉานลุกโชนอยู่ตลอดเวลา พื้นข้างล่างเป็นพื้นเหล็กแดง เหล็กแดง ที่ถูกเผาด้วยไฟจนแดงฉาน นายนิริยบาลท่านจะจับสัตว์นรกทั้งหมดนอนลงบนแผ่นเหล็กที่มี ไฟเผาโชน ถ้าสัตว์นรกขัดขืนไม่ยอมทำตาม ท่านก็จะใช้หอก ขวาน หรือไม่ก็เป็นหอก ซัดกระหน่ำโดยไม่ต้องยั้ง

      ตามเนื้อตัวของพวกสัตว์นรกจะโดนไฟเผาจนไหม้เกรียม  แม้จะร้องกระวนกระวาย ทุรนทุรายขนาดไหน ก็อย่าหวังเลยว่า จะได้รับการเห็นใจ หรือสงสารเลยแม้แต่น้อย

      เมื่อบรรดาสัตว์นรกทั้งหลายนอนลงไปแล้ว ท่านจะเอาคีมงัดปากพวกสัตว์นรก ให้อ้าออก แล้วกรอกด้วยน้ำทองแดงอันร้อนระอุ  เมื่อน้ำทองแดงถูกกรอกเข้าไปในปาก ทะลุเข้าลำคอ ไหลผ่านอก และท้อง อวัยวะทุกส่วนถูกลวกเผาจนพังยับเยินจนร่างกายสลาย...แล้วร่างกายก็กลับมาเป็นปกติดังเดิม นายนิริยบาลท่านก็จะลงโทษทัณฑ์ แบบเดิมซ้ำไปซ้ำมา จนกว่าเวรกรรมจะหมดสิ้น

      “นี่ถ้าเพื่อนพี่มาได้ยินเข้ามีหวัง เลิกกินเหล้ากันแน่ เฮ้อ..ทำไมมันถึงได้ทุกข์ ทรมานขนาดนี้” ผมเสริม

       พุทสวน “เวลาทำไม่รู้จักยั้งคิด แล้วจะไปโทษใครละครับ ท่านนริยบาล ท่านก็ทำไปตามหน้าที่ จริงๆ แล้วท่านใจดีมากๆ ไม่ได้โหดร้ายอะไรเลย ท่านจึงถือว่า เป็นผู้ที่เสียสละมากๆ”

      ผมเสริมข้อสงสัย “พุทได้อะไรบ้าง หลังจากที่ปฏิบัติธรรมที่ ห้อง 138”

      พุทยิ้มรับก่อนตอบ “โดยหลักให้รักตนเองให้มากๆ ไม่ติดไม่หลงผู้อื่น ให้ปฏิบัติอยู่กับตัวเอง ให้นั่งสมาธิ มีสติอยู่เสมอ อย่าติดตรงอื่น เพราะจะเป็นกิเลส หัวใจของการปฏิบัติ คือ การละใน รัก โลภ โกรธ หลง เป้าหมายที่วาง คือ ปรารถนาให้ทุกคนปฏิบัติธรรม ให้ศึกษาการปฏิบัติธรรมในทุกขณะจิต ก็ขอให้นั่งสมาธิ อย่ามัวเมาในสิ่งอบายมุข จะทำให้จิตใจผ่องใสโล่ง ไม่งมงายต่อเรื่องต่างๆ เป้าหมายอยากให้ตนเองบรรลุในธรรม ให้มากกว่านี้จะได้นำความรู้ ไปเผยแพร่ยังบุคคลอื่น ต่อไป”

      คำพูดของพุท... ทำให้ผมถึงกับอึ้ง..เพราะเปรียบเทียบกับตัวเอง ในวัยเดียวกับเขา ...ผมยังไม่รู้ภาษีภาษาอะไรเลย ใช้ชีวิตหายใจทิ้งไปวันๆ

      จู่ๆ มีเสียงตะโกนของเด็กผู้หญิงคนหนึ่งขัดจังหวะการสนทนา  ดาวกับพุทหันมายิ้ม กว้างกับผม และบอกว่าจะแนะนำให้รู้จักเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง
      เธอ คือ นางฟ้ากลับชาติมาเกิด!


No comments:

Post a Comment