Sunday, February 26, 2012

19.เห็นทุกข์..จึงเกิด..ธรรม


      ในที่สุด ครูเพ็ญก็ทนต่อทุกข์ไม่ไหว เพราะจิตมันสุมเอาทุกข์ไว้มากมาย จึงตัดสินใจจุดธูป 36 ดอก ปักไว้ที่หน้าบ้าน แล้วเข้ามานั่งกราบพระในห้อง

      “ด้วยความอัดอั้นที่สะสมความทรมานมาหลายปี ทำไมตัวเองไม่สามารถควบคุม อารมณ์ตัวเองได้ จึงได้ระเบิดเสียงร้องไห้ออกมาอย่างกับคนที่บ้าคลั่ง...

      ทันใดนั้นเองก็มีเสียงของพุทธองค์ตอบกลับมาว่า “อย่าร้องไห้ไปใยเลย เจ้าลงมาเกิดนั้นเพื่อให้รู้ความทุกข์ให้ชัด เจ้าจะได้รู้วิธีการที่จะผ่านความทุกข์นั้น การที่จะทำให้พ้นจากกิเลสกองเหล่านั้น เจ้าจงศึกษาไปเถิด...อดทนหน่อยนะลูก เมื่อทำได้แล้ว เจ้าจะสอนผู้คนได้อีกมากมาย”

      ครูตอบท่านกลับไปว่า “สอนแบบนี้หนูไม่เอา เทพ-เทวดามาใช้ร่างหนู หนูเจ็บ หนูไม่รู้จะทำอย่างไร ตั้ง 3  ปี เมื่อไรจะออก หนูทนไม่ไหวแล้ว ไม่เป็นตัวของตัวเอง คุมหนูถึงขนาดนี้ คนเขาก็ปรามาส  ดูถูกหนู ใช้ร่างหนูไปทางที่ผิด ทำให้หนูไม่สะอาด ไม่บริสุทธิ์ ทั้งกาย วาจา ใจ จะทำอย่างไรดี”

      ท่านกล่าวว่า “อดทนอีกนิดนะลูก  ทุกอย่างเป็นแบบฝึกหัด ตัวความรู้ทั้งหมด เมื่อเจ้าบริสุทธิ์เต็มที่แล้ว ตรงนี้ไม่ถือ เป็นความผิด ถือเป็นตัวที่ทำให้เทพ- เทวดา ท่านได้บรรลุมรรคผล เสร็จแล้ว เมื่อถึงวาระอันควรเจ้าก็จะได้พบกับครูบาอาจารย์ ที่จะคอยชี้แนะหนทางในการหลุดพ้นให้กับเจ้า”
      แล้วเสียงของพระพุทธองค์ก็หายไป...

      ครู รีบอธิษฐานทันที ขอให้ได้พบครูบาอาจารย์ให้มาช่วยให้หลุดจากตรงนี้ด้วยเถิด

      หนึ่งอาทิตย์ถัดมา  ก็มีเหตุทำให้ครูต้องเดินทางไปที่กระทรวงศึกษาธิการ เพื่อทำภารกิจให้กับทางโรงเรียน วันนั้นเองก็ได้พบผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ ครูเล็ก

      ครูเล็กพอเห็นหน้าครูเพ็ญ  ก็ทักทันทีว่า “มีเทพเป็นผู้หญิงแต่งชุดไทย ซ้อนอยู่ในตัว ต้องนำเขาไปพบกับครูบาอาจารย์เพื่อให้ท่านชี้หนทางแห่งการดับทุกข์”

       เย็นวันเดียวกัน ครูเล็กพาครูเพ็ญไปพบกับหลวงพ่อรูปหนึ่ง เมื่อเข้าไปกราบท่าน หลวงพ่อก็มองหน้าครูเพ็ญ แล้วก็ถามถึงธุระที่มา

      ครูก็บอกท่านว่า “มีเทพ-เทวดา ชอบมาแฝงๆ มาใช้ร่าง”

      หลวงพ่อบอกว่า “เหรอ  แล้วสื่อกับเขาได้ไหม”

      “ได้ค่ะ บางทีเขาก็ออกมา  แต่หนูมีความรู้สึกว่า เขาก็มาด้วยนะคะหลวงพ่อ  แต่หนูไม่รู้ว่าจะออกมาพูดหรือเปล่า”

      “ลองให้เขาออกมาพูดดูซิ”

      แต่ก่อนที่หลวงพ่อจะเชิญให้สิ่งที่แฝงอยู่ในกายครูเพ็ญออกมาพูด  หลวงพ่อสอนให้ลองกำหนดท้องฟ้าดู ครูก็กำหนดตาม แล้วก็เห็นนิมิตตาม

      “มาแล้วเจ้าค่ะ จะเร็วมาก”

      “ดูท้องฟ้าให้เห็นโดยรอบดูซิ ให้กว้างเหมือนท้องฟ้าเป็นกะทะใบใหญ่คว่ำลงมา ปิดลงบนแผ่นดิน แผ่นดินกว้างใหญ่สุดลูกหูลูกตา ราบเรียบเสมอเหมือนกันหมด ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า  ไม่มีอะไรทั้งสิ้น เราอยู่ตรงกลางแผ่นดิน”

      หลวงพ่อขา  “หนูทำได้แล้วค่ะ”

      ท่านก็มองหน้าลูกศิษย์คนอื่น “คนนี้ทำไมเร็วจัง มองเห็นหมดไหม ด้านหน้า ด้านหลัง  เอาไหนดูรูปร่างหน้าตาเราซิ ด้านหน้า ด้านหลังเป็นอย่างไร ผม ใบหน้าเรา จมูก ปาก คิ้ว คาง  ไล่ไปทีละส่วน จากใบหน้ามาคอ ลำตัว ลำแขน ฝ่ามือ ฝ่าเท้า นิ้วมือ นิ้วเท้า เล็บมือ เล็บเท้า  เห็นไหม”

        “เห็นเจ้าค่ะ” ทุกอย่างท่านสอนให้ทำโดยลืมตา

       “ท้องฟ้าอย่าให้หด  แผ่นดินอย่าให้หด เดี๋ยวจิตจะหด ความรู้ทุกอย่างจะหด ให้ทุกอย่างเสมอกันนะ”
      ท่านให้ขยายไปเรื่อยๆ มองด้านหลังเห็นไหม ตั้งแต่ศรีษะด้านหลัง แผ่นหลัง เอว  สะโพก ขาด้านหลัง

      “เห็นเนื้อเลยค่ะหลวงพ่อ”

      “แล้วทะลุเสื้อผ้า มองดูซิ มองดูลมที่เราหายใจเข้าไปซิ ดูลมที่หายใจเข้าทางจมูกซิ  ผ่านปาก ผ่านคอ ผ่านทรวงอก ผ่านลำตัว แยกออกที่ไข่ดัน 2 ข้าง ออกปลายนิ้วเท้า 10 นิ้ว มันออกไหม”

      “ออกแล้วเจ้าค่ะ”

      “รู้ลมมีสีอะไร”

      “นวลๆ ขาวๆ ขุ่นๆ มัว เหมือนเมฆหมอกเจ้าค่ะ มันเบาๆ เจ้าค่ะตอนนี้มันเบามากเลย”

      “อ้าวลมออกทั่วจากบ่า จากไหล่ ออกปลายนิ้วมือหรือเปล่า”

      “ออกแล้วเจ้าค่ะ”

      “ออกทั่วแผ่นหลังไหม ออกทั่วหนังศรีษะไหม จากโคนผมถึงปลายเส้นผม”

      “ออกทั่วเจ้าค่ะ  ออกทุกรูขุมขนทั่วเลยเจ้าค่ะหลวงพ่อ  มันเบาจังหลวงพ่อ”

      “เอ้าลมรอบกายเรามีไหม”

      “มีเจ้าค่ะ”

      “เอาดูซิ  ลมมันขยาย  ลมข้างใน  ลมข้างนอกเหมือนกันไหม”

      “เหมือนกันเจ้าค่ะ”

      “ดูลมที่ขยายเต็มแผ่นดินเลย”

      “โอเต็มแผ่นดิน  เต็มโลก  เต็มท้องฟ้า”

       “เอ้ามองทะลุเข้าไปในร่างกายของเราตั้งแต่กระโหลกศรีษะขากรรไกรบน-ล่าง  ฟันกราม  ทุกซีกเห็นไหม”

      “เห็นเจ้าค่ะ”

      “กระดูกคอ  กระดูกแขน  นิ้วมือ  กระดูกซีกโครง กระดูกทุกส่วน  กระดูกนิ้วเท้า  มองทะลุกระดูกเข้าไป  เห็นหัวใจ  ปอด  ม้าม  ตับไต  ไส้พุง  กระเพาะอาหาร  เศษอาหารที่อยู่ในกระเพาะอาหาร  กระเพาะปัสสาวะ  เศษปัสสาวะ  กระเพาะอุจจาระ  เศษอุจจาระ  ลำไส้  ตับไตไส้พุงทุกอย่าง  เส้นเลือด  เส้นเอ็นทุกเส้น

      มันสมองเห็นไหม  เส้นเลือด  สมองขาวจั๊วหน้าทาน  สมองมีเส้นเลือด  เส้นเล็กเส้นน้อย  ถ้าเป็นหมอสามารถเอ็กซ์เรย์ได้เลย  ป่วยอะไรเป็นอย่างไร  เป็นโรคอะไร  หัวใจเต้นตุ๊บตั๊บ  เอาดูต่อซิ  ทำอย่างไงให้โครงกระดูก  ตับไตไส้พุงทุกอย่างในร่างกาย เบาใสเป็นแก้ว  เอาใสเป็นแก้วทุกอย่างหัวใจก็แก้วเต้นตุ๊บตั๊บ..ให้จินตนาการเหมือนบวบแก่  หรือพลาสติกเบาใสเหมือนแก้วที่ใสสะอาดบริสุทธิ์

       เอ้าเปลี่ยนแผ่นดินมาเห็นห้องบ้านที่เราอยู่  นั่งอยู่ขยายการดูไป  เห็นบ้าน  เห็นถนนหนทาง...ตึกรามบ้านช่อง...คนเดินขวักไขว่  เห็นจนถึงประเทศไทยทั้งประเทศ  ภูเขา...แม่น้ำ”

      “ทุกอย่างเห็นหมดแล้วเจ้าค่ะ  มันขยายออกไปแล้ว  จีน  อินเดีย  ญี่ปุ่น  ทวีปเอเซีย  มาแล้วทวีปยุโรป  อเมริกา  ออสเตเรีย  ทุกอย่างมองเห็นหมดเลยค่ะ  ทั่วโลก เหมือนตัวเราเองอยู่นอกโลก แล้วมองลงมาเห็นทุกอย่างในโลกได้อย่างทะลุทะลวง  แม้กระทั่งไส้เดือนกิ้งกือคุยกัน  สัตว์คุยกัน  รู้หมดเลย”

      “ไหนทำความรู้สึกท่ามกลางอก  เห็นอะไรท่ามกลางอกไหม”

      “ไม่เห็นค่ะแต่หนูรู้อยู่จนนั้นขยายออกไปให้เต็มโลก  เต็มท้องฟ้า  เต็มแผ่นน้ำ  แผ่นดิน  ขยายทะลุเลยโลก

      “สั่งให้หยุดได้ไหม”

      “ได้เจ้าค่ะ”

      “สั่งให้เลยนอกจักรวาล  สั่งให้หยุดได้  นั่นแหละคืออะไรรู้ไหมครูเพ็ญ”

      “น่าจะเป็นจิตใช่ไหมค่ะ”

      “ใช่ มีรูปร่างให้เห็นไหม”

       “ไม่มีเจ้าค่ะ”

       “นั่นแหละคือจิต  จิตแปลว่าอะไรรู้ไหมครูเพ็ญ”

      “น่าจะแปลว่า  ผู้รู้”

      “จิตคือผู้รู้มาอาศัยร่างมนุษย์  เหตุที่เธอสามารถเห็นภาพต่างๆได้ ก็เพราะว่าจิต รู้ในสภาวธรรมที่เกิดขึ้นทุกอย่าง ว่าล้วนแต่ไม่เที่ยง เป็นอนัตตา

       เพราะฉะนั้น การที่ทำท้องฟ้า  ขอบฟ้า  แผ่นน้ำ  แผ่นดิน  ลมในกาย  ลมนอกกาย  ลมเต็มโลก  อันนี้หมายความว่ าทำให้จิตเบา  เมื่อจิตของเราเบาเมื่อไหร่ ก็จะสามรถแยกจิตออกจากกายได้  แต่ก็ยังเชื่อมอยู่กับกายก็มีสติรู้อยู่ทั่วกาย  แถมรู้อยู่ได้กว้างได้ไกล และรู้ลมด้วย  รู้ลมหายใจเข้า-ออก  รู้ลมที่ออกจากกายเราด้วย

       นี่แหล่ะเป็นเทคนิคในการทำให้คนมีสติ มีสติอย่างเร็ว  เขาเรียกว่ามหาสติปัฏฐาน 4  ของพระพุทธเจ้า  ซึ่งหลวงพ่อไปพยายามศึกษาดู  ในที่สุดทำให้ไปปฏิบัติทำได้เร็ว ถ้าคนมีพื้นฐานดี  ก็ทำได้เร็วขึ้น ให้ตั้งท้องฟ้า  ขอบฟ้า  ตั้งสติแบบนี้นะ ตลอดเวลานะ  ขณะคุยกับหลวงพ่อ  ก็อย่าให้หาย  อย่าให้หด ไหนดูซิ  เพ่งดูมาที่หลังของหลวงพ่อซิ ทำไมหลวงพ่อถึงเจ็บจมูกมีน้ำเลือด น้ำหนองออกตลอดเวลา  ดูซิ  มันเกิดจากอะไร  ใช้ความรู้ดูซิ  เห็นอะไรหรือใครมาฟ้องไหม”

       “หลวงพ่อคะ มีบางสิ่งบางอย่างเต็มท้องฟ้า มืดดำไปหมด ดูเข้าไปใกล้ๆ เป็นพวกขอม เป็นเจ้ากรรมนายเวรที่หลวงพ่อไปฆ่าเขาไว้ หลวงพ่อเอาเขามาทรมาน เอาเนื้อเขาไปทอดจับให้เขากินสดๆ ทรมานเต็มที่ แล้วเอาผ้ามายัดจมูกเขาจนตาย ตายไม่รู้ต่อกี่ศพ เขาก็สาปแช่ง แค้นก็มาเอาคืนค่ะหลวงพ่อ”

      “อาตมาก็ไม่รู้ว่าทำอะไรไว้ อาตมาขอขมาก็แล้วกัน  เอ้า ครูเพ็ญดูซิเขาเป็นอย่างไรบ้าง  พออาตมาขอขมาแล้ว”

      “ขอบุญหลวงพ่อค่ะ เพราะหลวงพ่อมีบุญบารมีสูง”

      “หลวงพ่อให้ ครูเพ็ญดูซิเขาเป็นอย่างไรตอนนี้”

      “ร่างกายของพวกเขาเริ่มเปลี่ยนเป็นชุดเขาขาวใสหมดเลยเจ้าค่ะ เครื่องทรงอลังการเลยค่ะหลวงพ่อ เขาขอขมาหลวงพ่อด้วยค่ะ เขาทำกรรมไว้กับหลวงพ่อๆ จึงลงโทษ เขาก็ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว จะถอนพิษให้หลวงพ่อ  ดูดพิษออกมา  เขาขอลาหลวงพ่อไปจุติตามกำลังบุญบารมี  ดวงจิตแต่ละดวงหายวับพุ่งขึ้นไปเต็มท้องฟ้า  สว่างไปหมด”

      วันนั้นหลวงพ่อมีอาการดีขึ้นทันตาเห็น!

      “อันนี้เป็นส่วนที่หลวงพ่อเมตตาสอน  สอน 7 ชั่วโมงเต็มๆ หลังจากที่สอนเสร็จ  เราไม่เข้าห้องน้ำไปไหน  มีสติอยู่ตรงนั้น เราไม่เคยมีสติได้ขนาดนี้”

      จู่ๆ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดขึ้นอีก! จนหลวงพ่อทักว่า

      “นั่นครูเพ็ญจะทำอะไร”

No comments:

Post a Comment